วิธีคำนวณค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม — รถชนแล้วเรียกได้เท่าไร?

วิธีคำนวณค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม — รถชนแล้วเรียกได้เท่าไร?

หลายคนเคยประสบปัญหา รถชน–รถเข้าอู่ซ่อมเป็นสัปดาห์ ทำให้ใช้งานไม่ได้ ต้องเสียเวลา เสียรายได้ หรือแม้แต่ต้องเช่ารถขับชั่วคราว แต่รู้ไหมว่า…

คุณมีสิทธิ์ “เรียกร้องค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม” จากคู่กรณีหรือบริษัทประกันได้ตามกฎหมาย ✅

บทความนี้อธิบายวิธีคำนวณ “ค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม” อย่างเข้าใจง่าย พร้อมแนวทางเรียกให้ถูกต้องและได้เต็มจำนวน

🚗 “ค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม” คืออะไร?

คือ เงินชดเชยในช่วงที่รถไม่สามารถใช้งานได้ ระหว่างรอซ่อมจากอุบัติเหตุที่เกิดจากคู่กรณี โดยมีสิทธิ์เรียกจาก

• บริษัทประกันภัยของคู่กรณี (ถ้ามี)

• คู่กรณีโดยตรง (ถ้าไม่มีประกัน)

โดยประกันจะชดเชย เป็นรายวัน ตามจำนวนวันที่รถเข้าซ่อมจริง

📅 วิธีคำนวณค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม

✅ สูตรพื้นฐาน:

ค่าขาดประโยชน์ = จำนวนวันที่ซ่อม × อัตราชดเชยต่อวัน

🧾 ตัวอย่างการคำนวณ

💡 บางกรณีบริษัทประกันมีเพดานสูงสุด เช่น “ไม่เกิน 15 วัน” หรือ “ไม่เกิน 10,000 บาท”
แต่ถ้าคุณมีหลักฐานยืนยัน เช่น ใบรับรถ–ใบคืนรถ–ใบเสร็จค่าเช่ารถ สามารถเรียกเพิ่มได้

📂 เอกสารที่ต้องใช้ยื่นเรียกร้อง

1. ใบเคลมจากบริษัทประกัน

2. ใบรับรถเข้าซ่อม / ใบคืนรถจากอู่

3. ภาพถ่ายสภาพรถก่อน–หลังซ่อม

4. สำเนาทะเบียนรถ + บัตรประชาชน

5. ใบเสร็จค่าเช่ารถ (ถ้ามี)

ยิ่งหลักฐานครบ เรียกค่าสินไหมได้เร็วและจบง่ายขึ้น

⚖️ หลักเกณฑ์ตามกฎหมาย

• ค่าขาดประโยชน์ถือเป็น “ค่าเสียหายทางทรัพย์สิน”

• สามารถเรียกได้ แม้ไม่มีใบเสร็จค่าเช่ารถ

• ต้องพิสูจน์ได้ว่ารถเสียหายจนใช้งานไม่ได้จริง

• มีสิทธิ์เรียกร้องภายใน 1 ปีหลังเกิดเหตุ (ตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 420)

💬 เคล็ดลับเจรจากับบริษัทประกัน

1. ขอใบรับรองจากอู่ซ่อมว่า “รถซ่อมเสร็จวันใด”

2. แนบภาพ/หลักฐานการส่ง–รับรถจริง

3. หากบริษัทเสนอชดเชยน้อยเกินไป ให้ขอปรึกษาทนายก่อนเซ็นยอมรับ

4. สามารถเรียกเพิ่มค่าใช้จ่ายอื่น เช่น ค่าเดินทาง หรือค่าเสียโอกาสทางอาชีพ

⚖️ ทีม “ทนายไทย” ช่วยอะไรได้บ้าง

• ประเมินจำนวนวัน–ยอดชดเชยตามกฎหมาย

• ติดต่อและเจรจากับบริษัทประกันแทนลูกค้า

• จัดทำเอกสารเรียกร้องค่าสินไหมครบชุด

• ดำเนินคดีเรียกค่าสินไหมในศาล (ถ้าบริษัทไม่จ่าย)

ไม่ต้องเดินเรื่องเอง ทีมทนายจัดการให้ครบวงจร โปร่งใส และถูกต้องตามกฎหมาย ✅